CTE (Chronic Traumatic Encephalopathy) เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสมัยนี้ เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับการเล่นกีฬาที่มีการกระทำที่สามารถทำให้เกิดการกระทบที่สมอง โรคนี้มักพบได้บ่อยในนักกีฬาที่มีการกระทำที่สมองบ่อยครั้ง เช่น นักมวย นักฟุตบอล และนักฟุตซอล สิ่งที่น่าสนใจคือ โรค CTE สามารถวิเคราะห์ได้จากการส่องกล้องสมองของผู้ป่วยหลังเสียชีวิต ซึ่งจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางสมองที่เกิดขึ้นเนื่องจากการกระทบต่อสมองเรื้อรัง
ตามทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกัน โรค CTE เกิดจากการกระทบที่สมองจนเกิดการทำลายเนื้อเยื่อที่สมอง ทำให้เกิดการสร้างกลุ่มของโปรตีน Tau ภายในสมอง ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดอาการผิดปกติในการทำงานของสมอง โดยเฉพาะในส่วนของความจำ อารมณ์ และพฤติกรรมของผู้ป่วย
การศึกษาเกี่ยวกับ CTE ได้ทำการสำรวจสมองของนักกีฬาที่เสียชีวิตจากการกระทบต่อสมอง และพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพภายในสมอง โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อเยื่อที่มีการสร้างกลุ่มของโปรตีน Tau ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการสมองเสื่อม อาการสำคัญที่พบได้คือ การสูญเสียความจำ การสับสนในการคิด ภาวะซึมเศร้า และอาการทางพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น ความรู้สึกหงุดหงิด ความไม่สงบ และความสะอิดสะเอียน
หลังจากที่มีการศึกษาเกี่ยวกับโรค CTE มากขึ้น ได้พบว่าโรคนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในนักกีฬาที่มีการกระทำที่สมอง แต่ยังพบในกลุ่มคนที่มีประวัติการกระทบต่อสมองเช่นกัน อย่างเช่น นักมวยเก่า ทหารที่ประสบการณ์การรบ และผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการกระทบสมอง
การวิเคราะห์สมองของผู้ป่วย CTE หลังเสียชีวิต ได้เป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ ซึ่งนักวิจัยได้พบว่ามีการสร้างกลุ่มของโปรตีน Tau ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ ซึ่งอาจช่วยในการพัฒนาการวินิจฉัยและการรักษาในอนาคต
สรุป โรค CTE เป็นโรคที่เกิดจากการกระทบต่อสมองเรื้อรังซึ่งเกิดขึ้นได้จากการเล่นกีฬาที่มีการกระทำที่สมองหรือจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการกระทบสมอง การศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้ได้พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในสมองซึ่งส่งผลให้เกิดอาการสมองเสื่อมที่สำคัญ เช่น การสูญเสียความจำ การสับสนในการคิด และภาวะซึมเศร้า การศึกษาเพิ่มเติมในอนาคตอาจช่วยให้เรามีข้อมูลที่มีประโยชน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคนี้ และช่วยในการพัฒนาการวินิจฉัยและการรักษาในอนาคต